สวัสดีค่ะน้องๆ วัยทำงานที่กำลังมองหาโอกาสพัฒนาตัวเองและสร้างเส้นทางอาชีพในต่างประเทศ! พี่เข้าใจดีว่าการตัดสินใจไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย โดยเฉพาะการวางแผนที่จะ “เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย” นั้น เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในชีวิตที่ต้องคิดอย่างรอบคอบ

จากประสบการณ์กว่า 20 ปีในการให้คำปรึกษาของทีม My Experience Educationโดยเฉพาะประเทศหลักอย่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ พี่บอกได้เลยว่าเส้นทางนี้เป็นไปได้จริง และสามารถ “ลดภาระค่าใช้จ่าย” และ “สร้างประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศ” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีจุดที่ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนเพื่อวางแผนให้รัดกุมที่สุดค่ะ

ทำความเข้าใจกฎหมาย: สิทธิ์การทำงานสำหรับผู้ถือวีซ่านักเรียน (Subclass 500)

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ออสเตรเลียเป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับน้องๆ วัยทำงานคือ สิทธิ์ในการทำงานอย่างถูกกฎหมาย ที่มาพร้อมกับวีซ่านักเรียน (Student Visa Subclass 500) ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและสร้างรายได้ระหว่างเรียนได้

สิทธิ์การทำงานระหว่างเรียนมีดังนี้:
  • ช่วงเปิดภาคเรียน: น้องๆ ที่ถือวีซ่านักเรียนสามารถทำงาน Part-time ได้ สูงสุด 48 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ (ซึ่งเป็นกฎใหม่ล่าสุด ณ เดือน ต.ค. 2568 ที่ปรับเพิ่มจาก 40 ชั่วโมง/2 สัปดาห์) น้องๆ สามารถจัดสรรเวลาได้เองว่าจะแบ่งทำงานสัปดาห์ละกี่ชั่วโมงก็ได้ ขอแค่ไม่เกินโควต้านี้ในทุกๆ คู่ 2 สัปดาห์
  • ช่วงปิดภาคเรียน: น้องๆ สามารถทำงานได้ ไม่จำกัดชั่วโมง (Full-time) อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากในการเก็บเงินและชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • ข้อยกเว้น: สำหรับผู้ที่ลงเรียนในระดับปริญญาโทแบบทำวิจัย (Master by Research) หรือปริญญาเอก (PhD) จะได้รับสิทธิ์ในการทำงานแบบไม่จำกัดชั่วโมงตลอดหลักสูตร
ข้อมูลข้างต้นเป็นไปตามนโยบายวีซ่า ณ ปัจจุบัน ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา น้องๆ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หรือปรึกษาทีมวีซ่าผู้เชี่ยวชาญของเรา

คุ้มค่าจริงหรือไม่? การวิเคราะห์เชิงการเงินสำหรับวัยทำงาน

การจะบอกว่า “คุ้มค่าที่สุด” คงดูเกินจริงไปหน่อย แต่ถ้าเราประเมินว่าการทำงาน Part-time จะช่วย “ลดภาระการเงิน” ได้อย่างไร เราจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

  1. ค่าใช้จ่ายหลัก: โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายหลักๆ จะประกอบด้วยค่าเล่าเรียน (ซึ่งหลักสูตรภาษาหรือวิชาชีพอาจอยู่ที่ประมาณ AUD 8,00018,000 ต่อปี) และค่าครองชีพ (รวมค่าเช่า, อาหาร, เดินทาง) ซึ่งอาจอยู่ที่ประมาณ AUD 18,00025,000 ต่อปี
  2. รายได้จากการทำงาน: โดยคิดจากค่าแรงขั้นต่ำของออสเตรเลีย (ปัจจุบันสูงกว่า AUD 24 ต่อชั่วโมง) หากน้องๆ สามารถทำงานได้เต็มโควต้า ชั่วโมงต่อ สัปดาห์อย่างสม่ำเสมอ รายได้ต่อปีจะอยู่ที่ประมาณ AUD 30,000
  3. การลดภาระ: เมื่อพิจารณาจากตัวเลขนี้ รายได้จากการทำงาน Part-time มีศักยภาพที่จะครอบคลุมค่าครองชีพทั้งหมด หรืออาจเกินกว่านั้นเล็กน้อย ทำให้ภาระหลักที่น้องๆ ต้องรับผิดชอบจะเน้นไปที่ “ค่าเรียน” และ “เงินตั้งต้น (Initial Fund)” ที่ต้องแสดงต่อสถานทูตเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นการ ลดความเสี่ยงด้านการเงิน ได้อย่างมีนัยสำคัญ
แต่ทั้งนี้ น้องๆยังสามารถที่จะทำงานที่ 2 เพื่อเพิ่มสกิลทำงาน และ เพิ่มโอกาสในการเพิ่มเรทต่อชั่วโมงของตัวเองได้มากขึ้น

จุดแข็งและโอกาสในการต่อยอดสำหรับนักเรียนไทยในออสเตรเลีย

  1. ประสบการณ์ทำงาน: การทำงานในออสเตรเลียไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องเงิน แต่ยังช่วยเพิ่มคุณค่าให้ประวัติส่วนตัว (Resume) และสร้างเครือข่าย (Networking) กับคนท้องถิ่นหรือชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในระยะยาว
  2. พัฒนาภาษาอย่างรวดเร็ว: ไม่ว่าจะเป็นงานในร้านอาหาร, คาเฟ่, หรือร้านค้า การใช้ภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงนอกห้องเรียน เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความมั่นใจและความคล่องแคล่ว
  3. โอกาสต่อยอด Post-Study Work Visa: สำหรับน้องๆ ที่เลือกเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น (เช่น ปริญญาตรีขึ้นไป) ออสเตรเลียมีโอกาสในการขอวีซ่าทำงานหลังเรียนจบ (Temporary Graduate Visa Subclass ) เพื่ออยู่ต่อและทำงานได้อย่างเต็มที่ตามสายงานที่เรียนมา